วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าของในหลวง (ตอนที่ 2)








หลังจากที่ได้นำเสนอเรื่องราวอันน่าประทัปใจของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ ผ่านบทความ "เรื่องเล่าของในหลวง ตอนที่ 1" ไปแล้วนั้น ในวันนี้จึงทำการรวบรวมเรื่องราวๆต่างของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ มาเรียบเรียงเป็นบทความชิ้นนี้ มาติดตามชมกันต่อได้ในชื่อว่า "เรื่องเล่าของในหลวง ตอนที่ 2"

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องที่ 3 เก็บร่ม

      การเสด็จพระราชดำเนินทุกครั้ง แม้จะต้องเผชิญกับแดดร้อนหรือลมแรง ราษฎรก็ไม่เคยย้อท้อที่จะอดทนรอรับเสด็จให้ถึงที่สุด แม้ฝนจะตกหนักแค่ไหน ก็ไม่มีใครยอมกลับบ้าน
      ร้อยเอกศรีรัตน์ หริรักษ์ เล่าไว้ในบทความ "พระบารมีปกเกล้าฯ ที่อำเภอท่ายาง" ตีพิมพ์ในหนังสือ "72 พรรษาราชาธิราชเจ้านักรัฐศาสตร์" ว่า
   
      ครั้งหนึ่งที่โครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฎว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ราษฎรและข้าราชการที่มาเข้าแถวรอรับเสด็จ ต่างเปียกปอนกันหมด แต่ก็ยังตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่อย่างนั้น
      เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ นายตำรวจราชองค์รักษ์ที่ตามเสด็จ ได้เข้าไปกางร่มถวาย ทรงทอดพระเนตรเห็นบรรดาข้าราชการและราษฎร ที่มายืนตั้งแถวรอรับเสด็จอยู่ต่างก็เปียกฝนโดยทั่วกัน

"จึงมีรับสั่งให้นายตำรวจราชองครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงพระดำเนินเยี่ยมข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเสด็จ โดยทรงเปียกฝนเช่นเดียวกับข้าราชการ และราษฎรทั้งหลายที่ยืนรอรับเสด็จในขณะนั้น"

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
      พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ นอกจากจะทรงแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ให้กับราษฎรของพระองค์ท่านแล้ว ยังทรงห่วงใยชาวบ้านที่มารอเฝ้ารับเสด็จอย่างไม่ย่อท้อแม้ต้องเผชิญกับสภาพอากาศไม่ดีก็ตาม พระองค์ท่านถึงกับทรงยอมเปียกฝนเช่นเดียวกับชาวบ้าน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่มีต่อประชาชนชาวไทยบนผืนแผ่นดินนี้

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องที่ 4 รถติดหล่ม กับ ถนนสายนั้น

      หากย้อนกลับไปค้นหาจุดเริ่มต้นของพระราชกรณียกิจ ในด้านการพัฒนาแล้ว ชื่อของ "ลุงรวย" และ "บ้านห้วยมงคล" คือสองชื่อที่ลืมไม่ได้
      เรื่องราวของ "ลุงรวย" เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2495 หรือ มากกว่าห้าสิบปีล่วงมาแล้ว ที่บ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กใน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านห้วยมงคลนี้อยู่ทั้ง ใกล้และไกล ตลาดหัวหิน ใกล้เพราะระยะทางที่ห่างกันนั้นไม่กี่กิโลเมตร แต่ไกลเพราะไม่มีถนน หากชาวบ้านจะขนพืชผักไปขายที่ตลาดต้องใช้เวลาเป็นวันๆ
      ห่างไกลความเจริญถึงเพียงนี้ แต่วันหนึ่งกลับมีรถยนต์คันหนึ่งมาตกหล่ม อยู่ที่หน้าบ้านลุงรวย เมื่อเห็นทหารตำรวจกว่าสิบนายระดมกำลังกัน ช่วยรถคันนั้นขึ้นจากหล่ม ลุงรวยผู้รวยน้ำใจสมชื่อก็กุลีกุจอออกไปช่วย ทั้งงัด ทั้งดัน ทั้งฉุด จนที่สุดล้อรถก็หลุดจากหล่ม
      
      เมื่อรถขึ้นจากหล่มแล้ว ลุงรวยจึงได้รู้ว่ารถคันที่ตัวทั้งฉุดทั้งดึงนั้น เป็นรถยนต์พระที่นั่งและคนในรถนั้นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชินีนาถ

      แม้จะตื่นเต้นตกใจที่ได้เฝ้าฯในหลวงอย่างไม่คาดฝัน แต่ลุงรวยก็ยังจำได้ว่าวันนั้น "ในหลวง" มีรับสั่งถามลุงว่า หมู่บ้านนี้มีปัญหาอะไรบ้าง
      ลุงได้กราบบังคมทูลว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือไม่มีถนน จึงนอกจากจะโชคดีได้รับพระราชทาน "เงินก้นถุง" จำนวน 36 บาท ซึ่งลุงนำไปเก็บใส่หีบบูชาไว้เป็นสิริมงคลจนถึงทุกวันนี้แล้ว อีกไม่นานหลังจากนั้น ลุงรวยก็ได้เห็นตำรวจพลร่มกลุ่มหนึ่งเข้ามา ช่วยกันไถดินที่บ้านห้วยมงคล และเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น ชาวบ้านก็ได้ถนนพระราชทาน "ถนนห้วยมงคล" ที่ทำให้ชาวไร้ห้วยมงคลสามารถขนพืชผักออกมาขายที่ตลาดหัวหินได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
      ไม่ว่าประชาชนที่ได้รับความลำบากยากเข็ญ จะอยู่ห่างไกลสักเพียงใด พระองค์ท่านก็จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนอย่างทั่วถึงเกือบทั้งสิ้น ด้วยน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน จึงทำให้ราษฎรทั่วทุกถิ่นฐานบนแผ่นดินนี้ได้รับความสุขความสบายยิ่งขึ้น

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3 ความคิดเห็น:

  1. 65ปีแล้วนะที่ทำงานเพื่อปวงชนชาวไทย พ่อเหนื่อยมามายแล้ว...พระองค์ท่านก็จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนอย่างทั่วถึงเกือบทั้งสิ้น ด้วยน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน ไม่ว่าประชาชนได้รับความลำบากยากเข็ญเพียงใด....

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...

    ตอบลบ
  2. ทุกที่ทุกถิ่นจะคลายความทุกข์สิ้น ด้วยพระเมตตา
    LONG LIVE THE KING

    ตอบลบ