----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องที่ 3 เก็บร่ม
การเสด็จพระราชดำเนินทุกครั้ง แม้จะต้องเผชิญกับแดดร้อนหรือลมแรง ราษฎรก็ไม่เคยย้อท้อที่จะอดทนรอรับเสด็จให้ถึงที่สุด แม้ฝนจะตกหนักแค่ไหน ก็ไม่มีใครยอมกลับบ้าน
ร้อยเอกศรีรัตน์ หริรักษ์ เล่าไว้ในบทความ "พระบารมีปกเกล้าฯ ที่อำเภอท่ายาง" ตีพิมพ์ในหนังสือ "72 พรรษาราชาธิราชเจ้านักรัฐศาสตร์" ว่า
ครั้งหนึ่งที่โครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฎว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ราษฎรและข้าราชการที่มาเข้าแถวรอรับเสด็จ ต่างเปียกปอนกันหมด แต่ก็ยังตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่อย่างนั้น
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ นายตำรวจราชองค์รักษ์ที่ตามเสด็จ ได้เข้าไปกางร่มถวาย ทรงทอดพระเนตรเห็นบรรดาข้าราชการและราษฎร ที่มายืนตั้งแถวรอรับเสด็จอยู่ต่างก็เปียกฝนโดยทั่วกัน
"จึงมีรับสั่งให้นายตำรวจราชองครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงพระดำเนินเยี่ยมข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเสด็จ โดยทรงเปียกฝนเช่นเดียวกับข้าราชการ และราษฎรทั้งหลายที่ยืนรอรับเสด็จในขณะนั้น"
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ นอกจากจะทรงแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ให้กับราษฎรของพระองค์ท่านแล้ว ยังทรงห่วงใยชาวบ้านที่มารอเฝ้ารับเสด็จอย่างไม่ย่อท้อแม้ต้องเผชิญกับสภาพอากาศไม่ดีก็ตาม พระองค์ท่านถึงกับทรงยอมเปียกฝนเช่นเดียวกับชาวบ้าน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่มีต่อประชาชนชาวไทยบนผืนแผ่นดินนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องที่ 4 รถติดหล่ม กับ ถนนสายนั้น
หากย้อนกลับไปค้นหาจุดเริ่มต้นของพระราชกรณียกิจ ในด้านการพัฒนาแล้ว ชื่อของ "ลุงรวย" และ "บ้านห้วยมงคล" คือสองชื่อที่ลืมไม่ได้
เรื่องราวของ "ลุงรวย" เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2495 หรือ มากกว่าห้าสิบปีล่วงมาแล้ว ที่บ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กใน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านห้วยมงคลนี้อยู่ทั้ง ใกล้และไกล ตลาดหัวหิน ใกล้เพราะระยะทางที่ห่างกันนั้นไม่กี่กิโลเมตร แต่ไกลเพราะไม่มีถนน หากชาวบ้านจะขนพืชผักไปขายที่ตลาดต้องใช้เวลาเป็นวันๆ
ห่างไกลความเจริญถึงเพียงนี้ แต่วันหนึ่งกลับมีรถยนต์คันหนึ่งมาตกหล่ม อยู่ที่หน้าบ้านลุงรวย เมื่อเห็นทหารตำรวจกว่าสิบนายระดมกำลังกัน ช่วยรถคันนั้นขึ้นจากหล่ม ลุงรวยผู้รวยน้ำใจสมชื่อก็กุลีกุจอออกไปช่วย ทั้งงัด ทั้งดัน ทั้งฉุด จนที่สุดล้อรถก็หลุดจากหล่ม
เมื่อรถขึ้นจากหล่มแล้ว ลุงรวยจึงได้รู้ว่ารถคันที่ตัวทั้งฉุดทั้งดึงนั้น เป็นรถยนต์พระที่นั่งและคนในรถนั้นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชินีนาถ
แม้จะตื่นเต้นตกใจที่ได้เฝ้าฯในหลวงอย่างไม่คาดฝัน แต่ลุงรวยก็ยังจำได้ว่าวันนั้น "ในหลวง" มีรับสั่งถามลุงว่า หมู่บ้านนี้มีปัญหาอะไรบ้าง
ลุงได้กราบบังคมทูลว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือไม่มีถนน จึงนอกจากจะโชคดีได้รับพระราชทาน "เงินก้นถุง" จำนวน 36 บาท ซึ่งลุงนำไปเก็บใส่หีบบูชาไว้เป็นสิริมงคลจนถึงทุกวันนี้แล้ว อีกไม่นานหลังจากนั้น ลุงรวยก็ได้เห็นตำรวจพลร่มกลุ่มหนึ่งเข้ามา ช่วยกันไถดินที่บ้านห้วยมงคล และเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น ชาวบ้านก็ได้ถนนพระราชทาน "ถนนห้วยมงคล" ที่ทำให้ชาวไร้ห้วยมงคลสามารถขนพืชผักออกมาขายที่ตลาดหัวหินได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
ไม่ว่าประชาชนที่ได้รับความลำบากยากเข็ญ จะอยู่ห่างไกลสักเพียงใด พระองค์ท่านก็จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนอย่างทั่วถึงเกือบทั้งสิ้น ด้วยน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน จึงทำให้ราษฎรทั่วทุกถิ่นฐานบนแผ่นดินนี้ได้รับความสุขความสบายยิ่งขึ้น
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
65ปีแล้วนะที่ทำงานเพื่อปวงชนชาวไทย พ่อเหนื่อยมามายแล้ว...พระองค์ท่านก็จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนอย่างทั่วถึงเกือบทั้งสิ้น ด้วยน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน ไม่ว่าประชาชนได้รับความลำบากยากเข็ญเพียงใด....
ตอบลบขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...
ทุกที่ทุกถิ่นจะคลายความทุกข์สิ้น ด้วยพระเมตตา
ตอบลบLONG LIVE THE KING
ทรงพระเจริญ
ตอบลบ