วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าของในหลวง (ตอนที่ 1)






      บทความนี้ได้นำเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับพระจริยวัตรอันงดงาม และพระราชอัธยาศัยอันน่าประทัปใจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่ได้รับการบอกเล่าจากข้าราชบริพาร ข้าราชการระดับสูง รวมถึงผู้ติดตามเสด็จ ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปอาจะไม่ทราบถึงเรื่องราวต่างๆเหล่านี้หากไม่ได้ศึกษาหรือค้นหาข้อมูลจากที่ต่างๆ ครั้งนี้จึงได้นำมาให้ทุกท่านได้ติดตามชมกัน เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติของตนเอง ตามที่พระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างที่เหมาะสมแก่ประชาชนของพระองค์ท่าน

เรื่องที่ 1 ในหลวงกับสัญญาณไฟแดง


วันหนึ่งมีคนสงสัยว่า รถนายกทำไมต้องติดไฟแดง....
      เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน บนถนนแห่งหนึ่งในกทม มีรถยี่ห้อโตโยต้าสีดำคันหนึ่ง ได้ขับไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคันดังกล่าว มีเพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับรถอยู่เพียงคนเดียวและในระหว่างทางที่ขับไปนั้น ชายดังกล่าวได้จอดรถแวะข้างทางเพื่อซื้อกาแฟ 1 ถุง และได้ออกรถไปจนกระทั่งขับมาถึงสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง 
      ชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู่ จนมีรถตำรวจคันหนึ่งซึ่งขับนำรถเบนซ์มาได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นจอดติดไฟแดงอยู่นั้นให้ถอยไป และรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่า 

"เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรีให้รถของชายดังกล่าวหลบไป"

      แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้ จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่รถของชายดังกล่าวและเรียกให้ชายผู้นั้นลงจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ ตำรวจได้เห็นชายคนนั้นถึงกลับเป็นลมล้มทั้งยืน สร้างความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถ จนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ได้เห็นชายดังกล่าว ทั้งตำรวจและรัฐมนตรีได้นั่งลงไปกับพื้นทันที เสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้างได้อ่อนแรงลงไปทันใด และได้เงยหน้ามองดูชายซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าตนด้วยอาการตัวสั่น 

ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็นเป็นชายที่มีรูปอยู่บนธนบัตร ซึ่งก็คือ ในหลวงองค์ปัจจุบัน

      ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรีและตำรวจติดตามว่า "พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกลับจะต้องฝ่าไฟแดง ข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย"

      รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่นและกราบลงบนพระบาทและในหลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็ได้ทูลว่า "ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า" 

      ในหลวงทรงตรัสว่า "เราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรีเถอะ" 

และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้น โดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่อย่างใดเลย

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
      แม้ทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์ แต่ก็ทรงเคารพระเบียบวินัย และกฎจราจรได้อย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ถูกต้องให้ประชาชนได้ปฎิบัติตาม เพื่อความมีวินัยของจราจรบนท้องถนน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องที่ 2 พับเพียบ
      ในครั้งแรก ผมทำงานตามพระราชดำริ โดยไม่ทราบว่าเป็นงานของพระองค์ จนกระทั่งวันหนึ่ง มีคนบอกว่าให้เข้าไปในวังด้วยกันและให้นำระบบสายอากาศชนิดใหม่ขึ้นไปติดตั้ง ก็ไม่ได้คิดว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯ มา แต่ว่าแปลกใจทำไมอยู่ดีๆเจ้าหน้าที่ที่กำลังติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ อย่บนดาดฟ้าของพระตำหนักถึงปีนลงมา ทั้ง ๆ ที่งานยังไม่เสร็จ แท้ที่จริงพระองค์ท่านเสด็จฯ มายืนอยู่ข้างหลัง
      ผมเหลียวหลังไปมองนิดหนึ่ง ครั้นพอเห็นพระองค์ท่านก็ตกใจ เป็นอาการวูบ ขึ้นมาทันที นึกอยู่ในใจว่าใช่แล้ว ใช่แน่ ๆ เพราะคิดว่าเหมือนในรูป ผมก็รีบทำความเคารพ แล้วก็ทำอะไรไม่ถูกสิ่งที่ผมจำได้คือเราต้องอยู่ต่ำกว่า จึงรีบคุกเข่าให้ต่ำลงมาเป็นเหมือนชันเข่าเพราะว่าตอนนั้นพระองค์ท่าน ประทับยืนอยู่ ถ้านั่งพับเพียบเลยก็จะต่ำเกินไปเพราะว่าผมต้องพูดอธิบายด้วย

ปรากฎว่าพระองค์ท่านก็คุกเข่าลงไปด้วย ผมก็เลยนั่งพับเพียบให้ต่ำลงไปอีก พระองค์ท่านก็ประทับพับเพียบเหมือนกันเลยกลายเป็นว่าวันนั้น นั่งพับเพียบสนทนากัน ๒-๓ ชั่วโมง บนดาดฟ้าพระตำหนักในเวลาช่วงบ่ายที่ร้อนเปรี้ยง....

เรื่องโดย 
      รองศาสตราจารย์ ดร.สุธี อักษรกิตติ์ ผู้สนองพระราชดำริ ในโครงการระบบสื่อสารสายอากาศ และอิเส็กทรอนิกส์
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
      แม้ทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์ แต่ก็ทรงมิได้ถือพระองค์แต่ประการ ทรงให้ความสำคัญแก่ประชาชนของพระองค์ท่านตลอดเวลา อย่างเช่น กรณีมีพระบรมราชโองการให้นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้า ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้นั่งเก้าอี้เสมอพระองค์ท่านได้เพื่อกราบทูลข้อมูลต่างๆให้ทรงทราบ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแก่ประชาชนชาวไทย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

7 ความคิดเห็น:

  1. เป็นคำที่ซาบซึ่งมาก...
    แม้ทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์ แต่ก็ทรงเคารพระเบียบวินัย และกฎจราจรได้อย่างเคร่งครัด....

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    ตอบลบ
  2. ซาบซึ้งปิติยินดี
    LONG LIVE THE KING

    ตอบลบ
  3. ไม่ต้องเเต่งเติมหรือร้อยรสเเห่งถ้อยคำ เพราะเรื่องของพระองค์งาม งามโดยพระจริยวัตรอยู่เเล้ว ในหลวงภูมิพล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

    ตอบลบ
  4. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ